พระเดชพระคุณพระหรหมมังคลาจารย์(หลวงพ่อปัญญานันทะ)เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มีความประสงค์จะสร้างพระอุโบสถให้แก่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย(มหาวิทยาลัยสงฆ์สาขาที่ 2 ตั้งอยู่ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา)
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านเห็นว่ามหาวิทยาลัยฯ ยังขาดแคลนสถานที่สังฆกรรม ที่มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะรองรับพระภิกษุสงฆ์นับจำนวนเป็นพันรูป จึงความประสงฆ์ที่จะสร้าง “พระอุโบสถทรงไทยประยุกต์กลางน้ำ” เพื่อใช้ในการทำสังฆกรรม อันเป็นกิจของสงฆ์ ที่ปฏิบัติร่วมกันในจำนวนมากอย่างพร้อมเพรียง ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย(มจร.)แห่งนี้
การสร้าง “พระอุโบสถทรงไทย ประยุกต์กลางน้ำ” ต้องใช้งบประมาณถึง 100 ล้านบาท
จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสมทบทุนสร้าง“พระอุโอสถกลางน้ำ” ซึ่งหลวงพ่อปัญญานันทะรับเป็นเจ้าภาพฝ่ายสงฆ์ในการจัดหาทุน
จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสมทบทุนสร้าง“พระอุโอสถกลางน้ำ” ซึ่งหลวงพ่อปัญญานันทะรับเป็นเจ้าภาพฝ่ายสงฆ์ในการจัดหาทุน
ท่านที่ประสงค์จะร่วมบริจาค ติดต่อบริจาคด้วยตัวท่านเองได้ที่
วัดชลประทานรังสฤษฏ์ ปากเกร็ด นนทบุรี โทร. 02-583-8845 , 081-831-2367, 081-830-1923
หรือ โอนเข้าบัญชีพระพรหมมังคลาจารย์ ธนาคารกสิกรไทย สาขาปากเกร็ด เลขที่บัญชี 142-2-15767-9 ประเภทบัญชีออมทรัพย์
วัดชลประทานรังสฤษฏ์ ปากเกร็ด นนทบุรี โทร. 02-583-8845 , 081-831-2367, 081-830-1923
หรือ โอนเข้าบัญชีพระพรหมมังคลาจารย์ ธนาคารกสิกรไทย สาขาปากเกร็ด เลขที่บัญชี 142-2-15767-9 ประเภทบัญชีออมทรัพย์
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างพระอุโบสถกลางน้ำและมจร.
“พระอุโบสถทรงไทย ประยุกต์กลางน้ำ” เพื่อใช้ในการทำสังฆกรรม อันเป็นกิจของสงฆ์ ที่เป็นหมู่คณะ จะพึงปฏิบัติร่วมกัน ซึ่งต้องใช้งบประมาณถึง 100 ล้านบาท พระเดชพระคุณหลวงพ่อปัญญดำริว่า จะสร้างให้เป็นอนุสรณ์ให้กับวัดมหาจุฬาฯ และเป็นอนุสรณ์ให้แก่อนุชนรุ่นหลังได้ระลึกถึงอุโบสถทรงไทยประยุกต์ 2 ชั้น อยู่กลางสระน้ำใหญ่ พื้นที่ชั้นบนรองรับพระส่งห์ได้ 400 รูป และมีลานล้อมรอบอุโบสถ ส่วนชั้นล่างเป็นฐานอุโบสถครอบคลุมพื้นที่ลานจากส่วนบน จึงมีขนาดกว้างขวาง และอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำ รองรับพระสงฆ์ได้ 4,000 รูป โดยได้วางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 และเริ่มดำเนินการก่อสร้างนับแต่นั้นเป็นต้นมา อนึ่งมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยแห่งคณะสงฆ์ไทย ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 5) ได้ทรางสถาปนาขึ้น ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏ์ เพื่อเป็นสถาบันการศึกษาพระไตรปิกฎ และวิชาชั้นสูง สำหรับภิกษุ สามเณร และคฤหัสถ์
ด้วยจุดมุ่งหมายส่งเสริมให้พระภิกษุสงฆ์ได้ศึกษาเรียนรู้ในระดับอุดมศึกษา เป็นบัณฑิตที่ทรงคุณภาพ มีควมเป็นเลิศทางวิชาการพระพุทธศาสนา สนับสนุนให้มีการค้นคว้าวิจัย และให้บริการวิชาการสังคม ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมรวมทั้งส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้เจริญก้าวหน้าสืบต่อไป
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2542 นายแพทย์รัศมี และคุณหญิงสมปอง วรรณิสสร เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ทูลเกล้า ถวายฯ โฉนดที่ดินตำบลลำไทร อำเภอวังน้อง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อที่ประมาณ 84 ไร่ 1 งาน 37 ตารางวา โดยเสด็จพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เพื่อพระราชธานแก่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย สำหรับสร้างเป็นศูนย์กลางการศึกษาของมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปีพ.ศ. 2542 เป็นต้นมา และพระเดชพระคุณหลวงพ่อปัญญานันทะ ได้รับเป็นประทานอุปถัมภ์ในการระดมทุนก่อสร้างอาคาร 92 ปี ปัญญานันทะ สำหรับเป็นที่พักสงฆ์ได้เป็นหมู่คณะและรองรับอาคันตุกะที่เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้จนสำเร็จลุล่วงเมื่อปี 2547 ที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าก่อสร้างกว่า 60 ล้านบาท
ด้วยจุดมุ่งหมายส่งเสริมให้พระภิกษุสงฆ์ได้ศึกษาเรียนรู้ในระดับอุดมศึกษา เป็นบัณฑิตที่ทรงคุณภาพ มีควมเป็นเลิศทางวิชาการพระพุทธศาสนา สนับสนุนให้มีการค้นคว้าวิจัย และให้บริการวิชาการสังคม ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมรวมทั้งส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้เจริญก้าวหน้าสืบต่อไป
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2542 นายแพทย์รัศมี และคุณหญิงสมปอง วรรณิสสร เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ทูลเกล้า ถวายฯ โฉนดที่ดินตำบลลำไทร อำเภอวังน้อง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อที่ประมาณ 84 ไร่ 1 งาน 37 ตารางวา โดยเสด็จพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เพื่อพระราชธานแก่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย สำหรับสร้างเป็นศูนย์กลางการศึกษาของมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปีพ.ศ. 2542 เป็นต้นมา และพระเดชพระคุณหลวงพ่อปัญญานันทะ ได้รับเป็นประทานอุปถัมภ์ในการระดมทุนก่อสร้างอาคาร 92 ปี ปัญญานันทะ สำหรับเป็นที่พักสงฆ์ได้เป็นหมู่คณะและรองรับอาคันตุกะที่เดินทางมาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้จนสำเร็จลุล่วงเมื่อปี 2547 ที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าก่อสร้างกว่า 60 ล้านบาท
ดูประมวลภาพความก้าวหน้าในการก่อสร้างได้ที่
http://www.mcu.ac.th/site/wangnoi/index.php?BRANCH_ID=
http://www.mcu.ac.th/site/wangnoi/index.php?BRANCH_ID=
No comments:
Post a Comment