Friday, August 10, 2007

พุทธวิธีคิดให้ คลายความเหงา ความเครียด ในยามอกหัก

วิธีคิดให้หายทุกข์ใจยามอกหัก
"อกหักดีกว่ารักไม่เป็น" สุภาษิตยอดฮิตสำหรับคนที่ำพบกับความผิดหวังในความรัก
แต่ถ้าอกหักบ่อยๆ มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน เำพราะมันช่างเจ็บช้ำระกำทรวง ยิ่งคนหนุ่มสาวยุคไอที
พบกันง่าย ชอบกันง่าย เบื่อกันง่าย จะทำอย่างไรกันดี บางคนอกหักวันละสามเวลาหลังอาหาร
เพราะเที่ยวรักคนนั้นคนนี้ไปทั่ว บางคนอกหักอย่างเบา ๆ เพราะรักเขาข้างเดียว
แต่บางคนอกหักอย่างช้ำชอก เพราะถูกคนรักทอดทิ้งไม่ใยดี บางคนรักกันมานานแต่
ภายหลังจำต้องเลิกรา เพราะไปด้วยกันไม่ได้ อันนี้็ก็้เจ็บตัวทั้งคู่ สรุปแล้วอกหักไม่ดีเลย
ดังนั้นบทความในวันนี้จึงขอเสนอเทคนิคทางใจ ยามประสบกับความผิดหวังในความรัก
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนหนุ่มสาวในยุคไอที ที่พบรักกันง่ายๆ บนออนไลน์ ด้วยความเร็วเท่าแสง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าวิธีคิดทั้ง ๔ วิธีนี้ คงจะได้ช่วยรักษาใจ ให้ท่านมีกำลังใจ
เรียนรู้ชีวิตกันต่อไป จนกว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตตามปรารถนาของทุกๆ คน
ต่อไปนี้ของเชิญติดตามได้เลย

๑. เข้าใจธรรมชาติของความรัก
ความรักแบบหนุ่่มสาว เป็นความรักที่มีรสหอมหวาน ใครๆก็ใคร่ปรารถนา
แต่ธรรมชาติของความรักแบบนี้ มันมาพร้อมกับพิษสงด้วย คือหากไม่สมปรารถนาเมื่อใด
มันก็จะแสดงความเจ็บปวดออกมาทันที เจ็บมาก เจ็บน้อย แล้วแต่ว่าเรายึดมั่นทุ่มเท
ในความรักแค่ไหน ยึดน้อยก็เจ็บน้อย ยึดมากก็เจ็บมาก ดังนั้นในยามใดอกหัก
ให้เราบอกกับตัวเองว่า นี่เป็นธรรมชาติของชีวิตมันแสดงอาการตามธรรมชาติของมันเอง
ถ้าเราไม่คิดฟุ้งซ่านกับมัน เดี๋ยวมันก็จะค่อยๆ ทุเลาเบาบางไปเอง

๒.มีความเมตตากรุณาต่อตัวเอง
เมื่อใดต้องพบกับความเจ็บปวดจากความผิดหวังในความรัก ให้คิดเมตตากรุณาต่อตัวเอง
ไม่คิดลงโทษตัวเอง หรือคิดทำร้ายจิตใจของตัวเองซ้ำเป็นดาบสองลงไปอีก แต่ให้มองไปที่
ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในจิตใจด้วยความกรุณา เหมือนกับว่าเรากำลังรู้สึกเมตตาสงสารใครสักคน
ปลอบใจตัวเองเหมือนกับที่เรากำลังปลอบเพื่อนด้วยความรักความเข้าใจ

ยกตัวอย่าง
"ทำใจสบายๆ นะ มันเจ็บไม่นานหรอก คราวหน้าเราจะระวังให้มากกว่านี้
ขอโทษทีนะเพื่อนนะ ที่ทำให้นายเจ็บ ฯลฯ"
คือมองที่ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นด้วยความเห็นใจว่านี่เป็นผลพวงที่เกิืดขึ้น
จากความรักแบบหนุ่มสาว (ดูข้อที่๑)

๓. มองโลกในแง่ดี
ให้คิดว่าตัวเองเป็นผู้ที่โชคดีที่สุดในโลก ดีแล้วที่อกหัก เพราะคนที่เรารักคนนี้
อาจจะไม่ใช่เนื้อคู่ของเราก็ได้ หรือให้คิดดีใจว่า อกหักคราวนี้ดีจัง
เพราะเราได้ความรู้ใหม่ๆ ที่เราสามารถนำมาปรับปรุงชีวิตของเราให้พัฒนา
ขึ้นไปได้อีกเยอะเลยทีเดียว เอ้.. อย่างนี้คงต้องขอบคุณคนที่หักอกเราแล้วสิ...
ไม่งั้นเราคงต้องเซ่อไำปอีกนาน หรือ คิืดว่า เออ..โชคเรายังดีนะ ที่ผิดหวังเสียก่อน ไม่อย่างนั้นถ้าหากถลาลึกลงไปมากกว่านี้เราก็คงจะเจ็บสาหัสกว่านี้เป็นแน่

การคิดในแง่ดีเช่นนี้ สารพัดที่จะคิดไปได้หลายรูปแบบ ใครที่คิดอย่างนี้ได้
ถือว่าเป็นคนฉลาดคิด เพราะสามารถเอาปัญหามาสร้างเป็นปัญญา
เอาความทุกข์มาแปรให้กลายเป็นความสุขที่เป็นกุศล มองโลกในแง่ดีมากๆ
เช่นนี้ทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีตลอดชีวิต

๔.ฝันเพิ่งตื่น

สำหรับคู่รักที่รักกันมานาน หวานชื่นกันมาโดยตลอด
แต่ต่อมาภายหลังมีอันต้องพลัดพรากจากกัน เพราะไปด้วยกันไม่ได้ หรือ
ขัดแย้งไม่เข้าใจกัน หรือ อีกฝ่ายไม่ซื่อสัตย์ทำให้มีอันต้องแยกทางกัน หรือ
ถูกทอดทิ้งอย่างไม่ใยดี ปัญหาเหล่านี้ล้วนสร้างความทุกข์อย่างแสนสาหัส
ให้แก่จิตใจจนยากจะรับไว้ได้ ดังนั้น จึงมีบางคนถึงกับคิดสั้น
ทำลายชีวิตของตนเองไปเลยก็มี

ในกรณีนี้ หากใช้ ๓ วิธีข้างต้นดังที่แนะนำไปแล้ว ยังเอาไม่อยู่่ คือยังมีความร่าไรรำพัน
อาลัยอาวรณ์อยููเช่นเดิม ขอแนะนำให้ใช้วิธีคิดแบบ "ตัดใจ" อย่างเด็ดขาดไปเลย
นั่นคือ ทุกครั้งที่มีความคิดหวนอาลัยเกิดขึ้นเมื่อใด ให้บอกกับตัวเองทันทีว่า
วันชื่นคืนสุขเก่าๆ นั่นมันเป็นแค่เพียงเราฝันไป ตอนนี้เราตื่นขึ้นมาวันใหม่แล้ว
ไม่ต้องไปหวนอาลัยมันอีกต่อไป "ความฝันคือมายา ปัจจุบันคือความจริง"
ให้มีความร่าเริงในชีวิตใหม่ สำหรับความรับผิดชอบต่างๆ ที่ตามมา
บอกกับตัวเองไปเลยว่า "เราทำได้สบายมาก" การอยู่เดียวถ้าหากชีวิตมันดีงาม
มันมีความสุขมากขึ้น เราก็น่าจะดีใจ บางทีไม่แน่ ในอนาคตเราอาจจะพบกับคนดีที่
ไปด้วยกันกับเราได้ ก็อาจจะเป็นได้ เป็นต้น

ขอสรุปย้ำอีกครั้งว่า ทุกครั้งที่มีความคิดอาลัยวันวานยังหวานชื่น ให้เราต้องบอกกับตัวเอง
่ทันทีว่า "นั่นมันความฝันเมื่อคืนนี้ ตอนนี้เราตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว ใจสว่างแล้ว"
ทำจิตใจให้ร่าเริง ได้เช่นนี้ เราก็ได้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

ที่มา www.budpage.com

No comments: