Tuesday, February 24, 2009

สร้างภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพระมหาชนก ที่อุโบสถวัดไทยในอินเดีย

ระดมทุนสร้างภาพจิตรกรรมฝาผนัง เรื่อง พระมหาชนก ที่อุโบสถวัดไทยในอินเดีย

คณะกรรมการ โครงการเขียน

ภาพจิตรกรรมฝาผนัง วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ สาธารณรัฐอินเดีย นำโดย

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล จัดงานแนะนำโครงการฯ ซึ่งได้รับพระราชทานภาพ

เขียนจากพระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก เพื่อวาดเป็นจิตรกรรมฝาผนัง

ในพระอุโบสถ โดยเป็นงานใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล กล่าวถึงที่มาของโครงการ

การเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง พระอุโบสถวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์

สาธารณรัฐอินเดีย ว่า สืบเนื่องจากเมื่อปี 2537 พุทธบริษัทชาวไทยได้ร่วม

ใจกันก่อสร้างวัดไทยขึ้นที่เมืองกุสินารา ณ ปริมณฑลพุทธปรินิพพาน

อันเป็นสังเวชนียสถานแห่งสุด ท้าย เพื่อเป็นพุทธบูชาและเฉลิมฉลองใน

โอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา

และครองราชสมบัติครบ 50 ปีในปี 2542 การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ตามกำหนด

ได้มีการสมโภชวัดเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2542 และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ

พระราชทานนามว่า วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์

ต่อมาในปี 2544 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ

พระราชทานแบบแปลนพระมหาเจดีย์ พร้อมพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์

เพื่อร่วมการก่อสร้าง และโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2544 โดยพระราชทานนามว่า พระมหาธาตุเฉลิมราชย์ศรัทธา

พร้อมพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุและเส้นพระเจ้า เพื่ออัญเชิญขึ้นประดิษฐานไว้

ณ พระมหาธาตุเฉลิมราชย์ ศรัทธา อีกด้วย

แต่เนื่องจาก พระราชรัตนรังษี พระธรรมทูตสายประเทศอินเดียและประธานสงฆ์

วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ มีความกังวลว่า งานสำคัญและด่วนที่จะต้องดำเนินการต่อไป

คืองานเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถและมุขทางเข้าพระอุโบสถ

จากด้านเหนือ ซึ่งได้รับพระราชทานภาพเขียนในหนังสือพระราชนิพนธ์

เรื่อง พระมหาชนกจำนวน 16 ภาพ และภาพพระราชกรณียกิจ 6 ภาพ

เพื่อวาดเป็นจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถตั้งแต่ปี2543 แต่ก็มีอุปสรรคนานา

ประการทำให้ไม่สามารถดำเนินการให้สำเร็จลงได้ กระทั่งเมื่อเดือน พ.ค. 2549

ได้มีคณะผู้มีจิตศรัทธาคณะหนึ่งเดินทางไปสักการะสังเวชนียสถานในประเทศ

อินเดีย พระราชรัตนรังษีจึงได้ขอให้ผู้มีจิตศรัทธาคณะนี้ช่วยหาทางดำเนินการ

ให้การเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถบรรลุผลสำเร็จ

เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า

อยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ทางคณะจึงได้นำข้อปรารภของ

พระราชรัตน-รังษีมากราบทูลสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ และทูลขอพระเมตตา

ให้ทรงรับเป็นประธานโครงการฯ เพื่อให้สมพระเกียรติยศและเป็นสิริมงคลแก่ผู้ดำเนินการ

เนื่อง จากงานนี้เป็นงานศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นสถานที่ที่อยู่ในบริเวณปริมณฑลที่

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จปรินิพพาน ประกอบกับเรื่องที่อัญเชิญมาเขียน

เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังก็เป็นพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับ

ผิดชอบในส่วนของภาพจิตรกรรมฝาผนัง จึงมีความเห็นว่า ภาพจากพระราชนิพนธ์

เรื่อง พระมหาชนกที่ ทางวัดได้รับพระ ราชทานมา เป็นภาพประกอบหนังสือ

เป็นตอนๆและเป็นภาพที่วาดโดยศิลปินหลายท่าน การนำภาพเหล่านั้นไปวาดเป็น

จิตรกรรมฝาผนัง คงจะไม่สามารถ ถ่ายทอดเนื้อหาสาระของพระราชนิพนธ์

ได้ครบถ้วน หากใช้วิธีเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบไทยดั้งเดิมจะเหมาะกว่า

อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่ศิลปะไทยในต่างแดนด้วย จึงมอบหมายให้นายมณเฑียร

ชูเสือหึง จิตรกร 6 กรมศิลปากร เป็นผู้ออกแบบ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนฯ

ก็ทรงเห็นด้วยว่า แทนที่จะเขียนภาพจิตรกรรมลงไปบนผนังพระอุโบสถตามที่

เคยปฏิบัติมา ควรจะเขียนลงในแผ่นผ้าใบ แล้วจึงนำไปปิดลงบนผนังพระอุโบสถ

วิธีนี้จะแก้ปัญหาเรื่องความชื้นของผนังพระอุโบสถซึ่งทำให้ภาพจิตรกรรมชำรุด

ต้องซ่อมแซมอยู่เสมอ รวมทั้งทุ่นค่าใช้จ่ายและเวลา เพราะการเขียนภาพจะทำ

ในประเทศไทย สามารถหาจิตรกรที่ชำนาญได้เป็นจำนวนมาก

และการเขียนภาพจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี และภาพเขียนลายเส้นทั้งหมด

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ได้ทอดพระเนตรและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ

พระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้วเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2551

งานนี้ถือเป็นงานใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก เพราะผนังพระอุโบสถวัด

ไทยกุสินาราเฉลิมราชย์มีเนื้อที่มากถึง 254 ตารางเมตร

ภาพจิตรกรรมจะวาดตั้งแต่เพดานลงมาเต็มพื้นที่ นอกจากนี้

ยังมีภาพเขียนพระราชกรณียกิจด้านการทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาในมุขทางเข้าพระ

อุโบสถจากด้านเหนือ เนื้อที่ประมาณ 80 ตารางเมตร เมื่อรวมค่าติดตั้งและ

ค่าใช้จ่ายอื่นๆแล้วคงต้องเตรียมงบประมาณไว้ 20-25 ล้านบาท ทางคณะกรรมการ

โครงการฯ จึงได้เปิดบัญชีไว้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสวนจิตรลดา

ในชื่อบัญชี “โครงการจิตรกรรมฝาผนังพระอุโบสถวัดไทยกุสินารา

เฉลิมราชย์อินเดีย” เลขที่บัญชี 0672117209 เพื่อให้พุทธบริษัททุกท่าน

ที่มีศรัทธาได้มีส่วนร่วมสร้างกุศลในครั้งนี้ด้วย

จาก ไทยรัฐหน้าสังคม -สตรี วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒

No comments: