Sunday, January 20, 2008

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับงานศพ

ความหมายบางอย่าง ที่คนไทยได้สัมผัส แต่ไม่เคยรู้ เพิ่งรู้เหมือนกัน อ่านแล้วจะได้ปลงๆ ชีวิตก็เป็นเช่นชะนี้เอง ความจริงแล้วปริศนาธรรมเกี่ยวกับเรื่องงานศพนั้นมีอยู่หลายข้อ ซึ่งก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่เด็กมาแล้ว แต่พ่อกับแม่ก็ไม่เคยเล่าให้ฟังเลย เหมือนกับว่าเขาให้ทำก็ทำกันไป โง่อยู่ตั้งนาน พอได้มาอ่านหนังสือธรรมลีลาของธรรมสภาแล้วก็ตาสว่างขึ้น มีอีกหลายข้อดังนี้


มัดตราสังข์สามเปราะ

มัดที่คอ หมายถึง บ่วงรักลูก
มัดที่มือ หมายถึง บ่วงรักสามี - ภรรยา
มัดตรงข้อเท้า หมายถึง บ่วงรักทรัพย์สมบัติ ติดอยู่สามบ่วงนี้ ไปนิพพานไม่ได้ ต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏไม่มีจบสิ้น


เคาะโลงรับศีล

ไม่ใช่ให้คนตายมารับศีล แต่เพื่อเป็นการบอกคนที่มาร่วมงานว่า อย่าเอาแต่มัวประมาทขาดสติ ไม่สนใจในหลักธรรมคำสอน เมื่อตายไปหมดโอกาสทำความดี จะเคาะจนโลงแตกก็ลุกขึ้นมาไม่ได้


สวดอภิธรรม

มักสวดเป็นภาษาบาลี คนเป็นฟังไม่รู้เรื่อง จึงนึกว่าสวดให้คนตาย แต่จริงๆ แล้วเป็นการสวดเพื่อสอนคนที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะได้นำหลักธรรม ไปปฏิบัติให้เกิดผลดีในชีวิตประจำวัน ดังนั้นแม้จะฟังไม่เข้าใจแต่เพื่อให้การฟังสวดอภิธรรมเกิดผล ควรสำรวมส่งจิตไปอยู่กับเสียงพระสวดให้จิตสงบนิ่งอยู่กับเสียงพระสวดก็จะเกิดสมาธิจิตได้


บวชหน้าไฟ

มักเข้าใจกันว่า เป็นการบวชจูงผู้ตายขึ้นสวรรค์ ความจริงนั้น ไม่ใช่ เพราะการบวชหน้าไฟเป็นการปลงธรรมสังเวชต่อการเกิด แก่ เจ็บ และตายในที่สุด มนุษย์ก็มีเท่านี้ ทำให้เกิดการเบื่อหน่ายต่อชีวิตในโลกียวิสัย ไม่ประสงค์จะอยู่ในเพศฆราวาส แล้วพอใจในสมณะเพศ มุ่งปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น เข้าสู่มรรคผลนิพพาน


การนิมนต์พระจูงออกหน้าศพ

เพื่อจะสอนคนที่ยังอยู่ให้ได้สำนึกว่าตอนที่ยังอยู่ ต้องเดินตามหลังพระ หมายความว่าให้ดำเนินชีวิตตามพระธรรม คำสั่งสอนพระพุทธเจ้านั่นเอง จึงจะอยู่ดีมีสุข มีความเจริญก้าวหน้า


การเวียนซ้าย 3 รอบ

หมายถึง การเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพทั้งสามอันมี กามภพ รูปภพ อรูปภพ ด้วยอำนาจกิเลส ตัณหาอุปทาน ก็จะเป็นทุกข์ไม่จบสิ้น ฉะนั้นต้องทวนกระแสกิเลส เป็นการสอนธรรมชั้นสูง จึงได้พาศพเวียนซ้าย


การใช้น้ำมะพร้าวล้างหน้าศพ

เพื่อชี้ให้เห็นว่า น้ำมะพร้าวเป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์ ผู้เข้าสู่มรรคผลนิพพาน ต้องชำระจิตให้สะอาดด้วยน้ำทิพย์จากพระธรรม


การแปรรูป

หลังจากเผาแล้ว มีการเก็บอัฐิและมีการเขี่ยขี้เถ้าผู้ตายให้เป็นรูปร่างกลับไปกลับมา เพื่อจะบอกว่าได้กลับชาติใหม่แล้วตามวิบากของกรรมต่อไป

No comments: