Thursday, March 28, 2013

ความสำเร็จที่มาจากการทำทานที่ถูกต้อง การรักษาศีล การนั่งฌานภาวนานำความเจริญรุ่งเรืองมาให้

ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ทำความดีอย่างยิ่งใหญ่
ผมได้ข่าวว่าคุณนุชถูกหวยได้เงินหลายล้านบาท ส่วนตัวเลขที่แท้จริง อาจจะต้องรอฟังในวันเสาร์อีกครั้งหนึ่ง แต่ถึงยังไงผมก็รู้สึกดีใจและมีความสุขตามไปด้วย จึงอยากจะขอแสดงความยินดีกับคุณนุชและครูกุ้ง และยิ่งผมได้รู้ต่อไปว่า การที่คุณนุชได้โภคทรัพย์ก้อนใหญ่ที่สุดในชีวิตในครั้งนี้เป็นผลมาจากการนั่งฌานสมาธิของครูกุ้ง กระผมก็ยิ่งรู้สึกปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง และได้รู้อีกว่าคุณนุชและครูกุ้งระลึกในธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ได้รับการถ่ายทอดจากอาจารย์ษิริพงศ์ จนทำให้ทั้งสองคนสามารถที่จะตั้งอยู่ในศีลในธรรมได้ และยังนั่งฌานสมาธิเป็นประจำจนนำไปสู่ความสุขความเจริญของชีวิต ทั้งสองคนจึงอยากจะตอบแทนในคุณงามความดีเหล่านี้โดยการมอบเงินบริจาคให้กับ อ.ษิริพงศ์ เพื่อใช้ในการเผยเผ่พระธรรมคำสั่งสอนเป็นธรรมทาน

กระผมก็ยิ่งรู้สึกปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง และขออนุโมทนากับคุณนุชและครูกุ้งในการทำบุญในครั้งนี้อย่างจริงใจ และที่ผมได้รู้จักครูกุ้งและได้ช่วยเหลืองานของครูกุ้ง ตั้งแต่วันที่ครูกุ้งได้รับความไว้วางใจจาก อ.ษิริพงศ์ แต่งตั้งให้เป็นครูสอนฌาน ผมก็ได้ช่วยเหลือครูกุ้งและได้เห็นการกระทำของครูกุ้งตลอดมา ซึ่งตั้งแต่วันวิสาขบูชาปีที่แล้วจนถึงตอนนี้ ครูกุ้งได้รับการแต่งตั้งมาเกือบหนึ่งปีแล้ว ครูกุ้งได้เสียสละทุ่มเทเวลาให้กับการสอนฌาน ทั้งในวันอังคารและวันพฤหัสด้วยดีตลอดมา โดยไม่เคยเว้นเลย ซึ่งครูกุ้งไม่ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินใดๆ จากทั้งมูลนิธิฯ หรืออ. ษิริพงศ์แต่อย่างใด และมูลนิธิฯ และอ.ษิริพงศ์ ก็ไม่ได้เก็บค่าเรียนหรือค่าสอนแต่อย่างใดเลย แต่หนำซ้ำในแต่ละครั้ง อ.ษิริพงศ์จะต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟครั้งละมากกว่า 2,000 บาท และยังต้องจัดพนักงานคอยจัดเตรียมปัดกวาดเช็ดถูอีกต่างหาก ส่วนครูกุ้งก็ต้องเสียค่าแท็กซี่ ค่าน้ำมันเพื่อเดินทางมาสอน สรุปแล้วทั้ง อ.ษิริพงศ์ และครูกุ้งต้องเสียค่าสอนกันทั้งคู่ โดยไม่ได้ผลตอบแทนอะไรเลย นอกจากบุญเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งนับว่าบุคคลทั้งสองนี้เป็นบุคคลที่เสียสละและทุ่มเทเพื่อส่วนรวม เพื่อต้องการให้ลูกศิษย์ที่มาเรียน รู้จักการทำทานที่ถูกต้อง การรักษาศีล การนั่งฌานภาวนาเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของตนเอง และผมคาดว่า ทั้งอ.ษิริพงศ์และครูกุ้งก็คงจะหวังว่า ลูกศิษย์ที่ได้สอนไปนั้นจะเป็นคนดีและไม่ลบหลู่ดูหมิ่นครูบาอาจารย์ของตนในภายหลัง ฉะนั้น อ.ษิริพงศ์และครูกุ้งควรได้รับการยกย่องและสรรเสริญจากบุคคลทั่วไปมากกว่าการได้รับคำตำหนิติเตียน และด้วยคุณงามความดีของครูกุ้งที่ได้ทำมา จึงส่งผลให้ชีวิตและครอบครัวมีความเจริญรุ่งเรืองและมีความสุข ซึ่งผมได้เห็นเหตุการณ์ตลอดมา สมแล้วที่ครูกุ้งได้รับความไว้วางใจจาก อ.ษิริพงศ์ให้เป็นครูสอนฌาน ซึ่งอ.ษิริพงศ์เลือกคนไม่ผิดเลย และอ.ษิริพงศ์เคยเล่าให้ฟังว่าตาทิพย์ที่ครูกุ้งได้นั้น ถ้าเพียรให้ดีก็จะสามารถสั่งได้ดังใจปรารถนา และฤทธิ์ที่ได้นั้น อ.ษิริพงศ์ ได้แนะนำว่าควรจะใช้ให้ถูกกาล ซึ่งที่ผ่านมาครูกุ้งก็ทำได้ดีและได้รับคำชมเชยจาก อ.ษิริพงศ์มาโดยตลอด

ครั้งหนึ่งอ.ษิริพงศ์เคยเล่าว่า หลวงพ่อสรวงก็เคยใช้ฤทธิ์เพื่อลดทิฏฐิมานะของคนบางประเภท มีครั้งหนึ่งลูกชายของหลวงพ่อสรวงเกิดความสงสัยในตัวของหลวงพ่อสรวง หลังจากที่หลวงพ่อสรวงได้ออกบวชระยะหนึ่ง บรรดาลูกศิษย์ก็ยกย่องว่าหลวงพ่อสรวงเป็นพระอรหันต์ เพราะเขาเหล่านั้นได้ฟังธรรมและอยู่ใกล้ชิด ส่วนลูกชายเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ และก็ไม่เชื่อว่าพ่อของตนเป็นพระอรหันต์หรือไม่ และมีวันหนึ่งลูกชายได้ไปหาหลวงพ่อสรวงและได้นั่งรออยู่หน้ากุฏิ ซึ่งในระหว่างนั้นหลวงพ่อสรวงกำลังเข้าฌานสมาธิ หลังจากออกจากสมาธิแล้วได้เปิดประตูออกมา และได้ข้ามธรณีประตูและได้หันหลังกลับไปแล้วหยิบปากกาเมจิกขึ้นเขียนตัวเลขเจ็ดตัวบนวงกบประตู ซึ่งลูกชายได้เห็นการกระทำของหลวงพ่อสรวงก็มีความสงสัยว่า หลวงพ่อจดเบอร์โทรศัพท์ของใครไว้ที่วงกบประตู หลังจากที่หลวงพ่อเขียนแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วเดินออกไปที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งเขาก็กำลังจะเดินตามไป แต่ก็ยังมีความสงสัยในตัวเลข จึงได้หันกลับไปมองที่ตัวเลขเจ็ดตัวนั้น และได้จำตัวเลขสามตัวหลังเพื่อนำไปแทงหวย เมื่อหวยออกผลปรากฏว่า ถูกรางวัลเลขท้ายสามตัวของรางวัลที่หนึ่ง ลูกชายของหลวงพ่อสรวงจึงได้นำใบตรวจหวยนั้นและกลับไปที่กุฏิหลวงพ่อ ปรากฏว่าตัวเลขทั้งเจ็ดตัวของรางวัลที่หนึ่งกับตัวเลขที่หลวงพ่อสรวงเขียนไว้บนวงกบประตูเป็นตัวเลขเดียวกัน จึงได้เกิดความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง และเกิดความศรัทธาเป็นอย่างมากในบิดาของตนเอง และก็ได้มีความเชื่ออย่างสนิทใจ ว่าบิดาของตนคือพระอรหันต์ เพราะฌานสมาธิที่หลวงพ่อได้ปฏิบัตินั้นเป็นของจริงซึ่งสามารถพิสูจน์ได้

ซึ่งเรื่องนี้ก็ตรงกับที่ครูกุ้งสามารถที่จะเห็นเลขหวยทุกงวดที่ออกได้ แม้กระทั่งรางวัลที่หนึ่งครบทั้งหกตัว ครูกุ้งก็สามารถเห็นครบถ้วนมาแล้ว ซึ่งความสามารถตรงนั้นเป็นที่ประจักษ์ต่อทุกคนในเรื่องการทำฌานสมาธิ ซึ่งทุกคนให้การยอมรับ แต่หลักของมูลนิธิฯ ก็มีอยู่ว่าเราจะไม่สนับสนุนหรือส่งเสริมเรื่องอบายมุขทุกประเภท โดยยิ่งเป็นครูบาอาจารย์ยิ่งไม่ควรไปสนใจ ฉะนั้นอาจารย์และครูกุ้งจึงไม่ได้สนใจเรื่องหวยแต่อย่างใด แต่สำหรับคนอื่น ถ้าเป็นบุญของเขา และเขาสมควรได้เขาก็จะได้ของเขาเอง ด้วยบุญกุศลและปัญญาของเขา แต่อ.ษิริพงศ์ได้บอกว่า ถ้าวันนี้มีใครจะมาเรียนฌาน เพื่อต้องการให้ได้ตาทิพย์และเห็นเลขหวย อ.ษิริพงศ์ยินดีจะสอนอย่างเต็มใจและเต็มที่ เพราะการที่คนใดคนหนึ่งจะมีความตั้งใจอยากจะเรียนการนั่งฌานจนถึงขั้นเกิดทิพจักขุได้ ถือว่าเขาคนนั้นมีบุญบารมีไม่ธรรมดาเลย เพราะการที่จะนั่งฌานถึงขั้นเกิดทิพจักขุจนเห็นตัวเลขได้นั้น เขาจะต้องผ่านการทำทานที่ถูกต้อง การรักษาศีลอย่างดีเยี่ยมแล้วเท่านั้น จึงสามารถที่จะทำฌานสมาธิขั้นสูงได้ จึงถือว่าควรยกย่องและควรสรรเสริญเป็น อย่างยิ่ง ไม่ควรจะดูหมิ่นหรือดูถูกเลย เพราะการทำฌานนั้น เป็นบุญที่สูงสุดในโลก ไม่มีบุญไหนจะเทียบได้ ส่วนการจะเห็นเลขแล้วไปแทงหวยนั้น ก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้เล็กๆ น้อยๆ ส่วนผลบุญอันยิ่งใหญ่ที่เขาได้นั้นจะนำเขาไปสู่ความสุขความเจริญ ทั้งในชาตินี้และในชาติต่อๆ ไปอย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยผลแห่งฌานสมาธินั่นเอง

และอ.ษิริพงศ์ ยังบอกอีกว่า ถ้าครูกุ้งได้ฤทธิ์อะไรมา ก็ควรจะแสดงให้ลูกศิษย์ของเราได้รู้ได้เห็นและถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะสอนฤทธิ์เหล่านั้นให้กับลูกศิษย์ของตนอย่างหมดไส้หมดพุง แต่เราอย่าไปโอ้อวดกับคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกศิษย์ของเรา ซึ่งที่ผ่านมาครูกุ้งก็ไม่ได้ไปโอ้อวดที่อื่นเลย นอกจากคุยกับลูกศิษย์ของตนและลูกศิษย์ ของ อ.ษิริพงศ์เท่านั้น ซึ่งอาจารย์ก็ได้ให้การรับรอง และครูกุ้งเองก็ไม่ได้เล่น Facebook แต่อย่างใด จึงไม่มีช่องทางที่จะโอ้อวด นอกจากคนใกล้ชิดยกย่องและสรรเสริญเองเท่านั้น
ท้ายนี้ผมจึงขอเชิญชวนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และกัลยาณมิตรทุกท่าน ร่วมกันแสดงความยินดี กับการที่มิตรของเรามีความสุขความเจริญและร่วมกันอนุโมทนากับการทำบุญเป็นธรรมทานอันยิ่งใหญ่ของคุณนุชและครูกุ้งในวันเสาร์นี้ และถ้าเป็นไปได้ ก็ขอเชิญชวนกัลยาณมิตรและญาติธรรมทุกท่านไปร่วมทำบุญสังฆทานและร่วมอนุโมทนาในการทำบุญและการทำความดีของทั้งสองคน ณ มูลนิธิพิสูจน์ธรรม ทั้งนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับบุคคลที่ทุ่มเทและเสียสละในการทำความดีให้กับสังคมโดยรวมและพวกเราชาวมูลนิธิพิสูจน์ธรรม
ขอขอบคุณครับ สาธุ สาธุ สาธุ...


ที่มา facebook พี่เข้ม 

ได้เงิน 3 ล้าน 6 แสนค่ะ
และทั้งพี่นุชและครูกุ้งได้มอบเงินบริจาคให้กับ อ.ษิริพงศ์ เป็นจำนวน 1 แสนบาท เพื่อใช้ในการเผยเผ่พระธรรมคำสั่งสอนเป็นธรรมทาน (ขออนุโมทนาด้วยนะค่ะ)

สำหรับคอร์สนั่งฌาณติดตามได้ที่ http://siripong.net/meditation_practices/

No comments: