Monday, November 24, 2008

กรณีที่ผู้พิพากษาสั่งลงโทษผู้ต้องหาถึงขั้นตัดสินประหารชีวิต กรณีนี้ผู้พิพากษาท่านไม่ได้ลงมือเอง ท่านจะผิดศีลข้อที่1 ด้วยหรือไม่ครับ

หลวงพ่อตอบปัญหา

โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)
เรียบเรียง จาก รายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC


คำถาม
:
หลวงพ่อครับ...กรณีที่ผู้พิพากษาสั่งลงโทษผู้ต้องหาถึงขั้นตัดสินประหารชีวิต
กรณีนี้ผู้พิพากษาท่านไม่ได้ลงมือเอง ท่านจะผิดศีลข้อที่1 ด้วยหรือไม่ครับ
คำตอบ: คุณ โยม...ในเรื่องของการลงโทษคนตามกฎหมาย นี่เป็นเรื่องของกฎหมายบ้านเมือง และในเรื่องของกฎหมายนี้ ต้องทำความเข้าใจอีกนิดหนึ่งด้วย กฎหมายยังมีกฎหมายแม่ กฎหมายลูก
กฎหมายลูกก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายแม่ ถ้าลูกว่าผิด แต่แม่ว่าไม่ผิดก็ เป็นว่าไม่ผิด ก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายแม่
คุณโยม...แต่ว่ากฎหมายลูกกฎหมายแม่ มันเป็นเรื่องที่มนุษย์ตั้งกันขึ้นมา ส่วนว่าผิดศีลหรือไม่ผิดศีล นั่นมันกฎแห่งกรรม อย่ามาปนกันนะคุณโยม ถ้าปนกันเมื่อไหร่ พลาดเมื่อนั้น
กฎหมาย มนุษย์เป็นผู้กำหนดขึ้นมาตามวาระ ตามเทศะ บางประเภทด้วยกรณีตัดสินเรื่องเดียวกัน อาจจะเหมือนกัน ไม่เหมือนกัน แต่ว่าในเรื่องของ กฎแห่งกรรม แล้ว...ไม่ว่าเรื่องการตัดสินหรือการฆ่านั้นๆ จะเกิดตรงไหนในโลกก็ตาม คุณโยม...มันผิดทั้งนั้น เพราะว่ากฎแห่งกรรมนั้น เป็นกฎของจักรวาล มันไม่ใช่กฎของบ้านเมืองใดบ้านเมืองหนึ่ง
ดวงอาทิตย์ที่ ประเทศจีน ประเทศไทย ประเทศฝรั่ง เห็น มันดวงเดียวกัน ดวงอาทิตย์ที่คนต่างศาสนาเห็น มันดวงเดียวกัน เพราะฉะนั้นความรู้สึกนึกคิดหรือว่าความร้อนแรงมันก็ระดับ เดียวกัน ไม่เปลี่ยน
ขณะนี้ เมื่อเราพูดถึงกฎหมายบ้านเมืองแล้ว ดูเหมือนว่าผู้พิพากษาท่านไม่ผิด ท่านไม่ผิดโดยกฎหมาย เพราะกฎหมายอนุญาตท่าน แต่ถึงอย่างไรก็เข้าข่ายฆ่าสัตว์ตัดชีวิตตามกฎแห่งกรรม
กฎเกณฑ์ในเรื่องของฆ่าสัตว์ตัดชีวิตในศีลข้อที่1 ว่าอย่างไร
1.สัตว์นั้นมีชีวิต
2.รู้ด้วยว่ามีชีวิต
3.มีจิตคิดจะฆ่า
4.ลงมือฆ่า
5.ได้ตายสมใจนึก
เมื่อไหร่ก็ตาม เมื่อได้มีการสั่งฆ่ากันขึ้นแล้ว และได้ฆ่าเสร็จสรรพแล้ว ใครมีส่วนไหนใน 5ขั้นตอนนี้ ก็รับเอาไป...ชัดเจนดีนะ
แต่ว่า มันก็มีข้อคิดกัน บางอย่างผ่อนหนักเป็นเบาได้...ผ่อนหนักเป็นเบาทำอย่างไร...อย่างกรณีที่กล่าวมาแล้วว่า
ประการที่1.เราก็ไม่ได้ยินดีด้วยกับการที่จะต้องฆ่านั้นๆ
ประการที่2.คน ที่ถูกสั่งฆ่า มันก็รู้ตัวนะว่ามันทำผิดจริง มันยอมรับด้วยว่า มันทำผิด มันยอมรับว่ามันเลว แล้วก็มันก็ไม่ได้ผูกพยาบาทกับผู้พิพากษา
อย่างนี้ผิดก็ผิด แต่พอเบาหน่อย

แต่ถ้า...มันเองมันว่ามันไม่ผิด ทั้งๆที่จริงมันผิด แล้วมันก็จองเวรด้วย ถ้าอย่างนี้คงจะได้ตามล้างตามผลาญกันอีกหลายชาติ อันนี้ชัดๆนะคุณโยมนะ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้า ในกรณีที่ไปตัดสินผิดคนเข้า คนไม่ผิดแต่หลักฐานเท็จที่ไปมัดเขา เลยทำให้ต้องตัดสินให้กลายเป็นคนผิดไป ตรงนี้มันจะยิ่งหนักเข้าไปอีก
ก็ขอฝากเอาไว้เป็นข้อคิด ตำรวจก็ตาม ทหารก็ตาม ท่านผู้พิพากษาก็ตาม อย่าปนกันระหว่างกฎหมายกับกฎแห่งกรรม ถ้าเมื่อไหร่พูดถึงกฎแห่งกรรม ผิดคือผิด ขึ้นอยู่กับบุญกับบาป
ส่วนว่ากฎหมาย มันเป็นเรื่องของคนมาช่วยกันกำหนดกันขึ้นมา เพราะฉะนั้นก็ขอให้ระมัดระวังเรื่องนี้ให้ดี
และอาตมาก็อยากจะแถมไว้ด้วยว่า ไม่ว่าตำรวจ ไม่ว่าทหาร ไม่ว่าท่านผู้พิพากษา ท่านมารับภาระตรงนี้...นี่มันปลายเหตุ... ปลายเหตุอย่างไร...เขาทำกรรมกันมาเรียบร้อย เขาก่อเวรกันมาเรียบร้อย เขาทำ ผิดพลาดกันมาแล้ว ท่านผู้พิพากษา ท่านนั่งอยู่บนบัลลังก์ เขาฆ่ากันมาเรียบร้อย เขาทำเหตุกันมาแล้ว แล้วมาสั่งให้ท่านไปสั่งฆ่าอีกทีหนึ่ง ตรงนี้กฎหมายจะว่าอย่างไร อาตมาไม่เกี่ยว แต่อยากจะพูดว่า ขณะนี้เราทำกันที่ปลายเหตุ
ถ้าต้นเหตุนะ ทั้งทหาร ทั้งตำรวจ ทั้งท่านผู้พิพากษา มาช่วยกันคิดอย่างนี้ดีกว่าว่า ทำอย่างไรจะเอาธรรมะ จะเอาพระพุทธศาสนาเข้าไปอยู่ในจิตใจคน ดูเผินๆว่า ไม่ใช่หน้าที่ของท่าน

ความจริงเป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งชาติ ไปช่วยกันคิด ช่วยกันวางมาตรการตัดไฟต้นลมตรงนั้น ถ้ามันถึงคราวจะต้องฆ่า ต้องฟันกัน ก็ให้...
1.น้อยหน่อย
2.บางทีอาจจะผ่อนหนักเป็นเบาได้...เป็นอย่างไร คือ แทนที่จะต้องฆ่าก็เอาแค่จำคุกตลอดชีวิตเถอะ

เพราะอะไร...เพราะว่า ใครๆก็ไม่มีสิทธิที่จะฆ่าใคร เพราะเราไม่ได้ให้ชีวิตเขาขึ้นมา เมื่อเราไม่ให้ชีวิตเขามา แล้วเราไปฆ่าเขา กรณีไหนมันก็บาปทั้งนั้น จองเวรกันไม่รู้จบ
ยิ่งกว่า นั้น ฆ่าเจ้าคนผิดลงไปแล้ว เจ้า Number1...ตายไปแล้ว เดี๋ยว Number2 Number3 Number4 ก็ตามมา...ทำไมมันตามมา...ก็ยังไม่ได้แก้ไขนิสัยสันดานของไอ้เจ้ารุ่นหลัง ให้ดี มันก็มีแต่การฆ่าไม่รู้จบอยู่นั่นแหละ คุณโยม...มาช่วยกันนะ
หลวงพ่ออยากจะฝากอีกนิดหนึ่ง คนที่บาปมากๆเลยนะ ในเมื่อเกิดมีความจำเป็นต้องตัดสินประหารชีวิตขึ้นมาแล้ว คือผู้ที่ออกกฎหมายเอง ไม่ ว่าผู้ที่ออกกฎหมายชุดนั้นๆ คนนั้นๆ ตายไปแล้วนานเท่าไหร่ก็ตาม เมื่อมีการสั่งประหารตามกฎหมายที่เขาออกเอาไว้ นี้ แม้ตัวเองตกนรกอยู่แล้ว บาปก็เพิ่มขึ้น ตกนรกหนักเข้าไปอีก
เพราะฉะนั้น ใครจะออกกฎหมายเกี่ยวกับการฆ่ากัน...คิดให้เยอะ ประหารชีวิต...คิดกันให้เยอะนะ เพราะใครๆ ก็ไม่มีสิทธิ์ฆ่าใคร เนื่องจากไม่มีใครเป็นผู้สร้างชีวิตให้ใคร


No comments: