Thursday, November 18, 2010

ห้องน้ำ - 5 ห้องชีวิต เนรมิตนิสัย

ห้องน้ำ
5 ห้องชีวิต เนรมิตนิสัย
เรียบเรียงจากโอวาทพระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทัตตะชีโว)

แหล่งที่มาของภาพ : www.roomdesign88.com/bathroom
ห้องน้ำ คือ ห้องมหาพิจารณา

ตื่นเช้าขึ้นมา เมื่อเราออกจากห้องนอน ก็จะไปห้องน้ำ
ห้องน้ำเป็นห้องมหาพิจารณา คือ ฝึกคิดให้ตรงตามความเป็นจริงของโลกและชีวิต เพราะห้องนอนหรือห้องอื่น ๆ เช่น ห้องครัว ห้องทำงาน เวลาจะใช้ สามารถใช้พร้อม ๆ กันได้หลายคน ยิ่งห้องครัวด้วยแล้ว หลายคนล้อมโต๊ะกินข้าวกัน แต่ห้องน้ำใช้ได้ทีละคนเท่านั้น จึงมีเวลาที่จะพิจารณาตัวเองมาก

หน้าที่หลักของห้องน้ำมีอะไรบ้าง

1) เป็นที่พิจารณาความไม่งามของร่างกาย
พิจารณาอายุของเราที่ผ่านไปแต่ละวันแต่ละคืนก็ตรงนี้ แล้วความหลงตัวเองก็จะหมดไป ความเคียดแค้นชิงชังใครก็จะไม่มี
2) เป็นที่พิจารณาความเสื่อมโทรมของร่างกายที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
3) เป็นที่พิจารณาความเป็นรังแห่งโรคของร่างกาย
ห้องน้ำเป็นห้องพิจารณาความมีโรคภัยไข้เจ็บของเรา ที่สำคัญที่สุด ห้องน้ำเป็นห้องสำหรับรักษาสุขภาพอย่างดี

หลวงพ่อขอฝากไปถึงคุณพ่อคุณแม่ที่ยังมีลูกเล็กอยู่ด้วย ถามว่าเวลาเราป่วยไข้ไปหาหมอ หมอต้องการอะไรจากเราอย่างรีบด่วน ถ้าเฉพาะหน้า เขาก็ต้องการเจาะเลือดมาตรวจดู ต้องการวัดความดัน แต่ว่าอย่างไรก็ตาม เดี๋ยวก็ขออุจจาระและปัสสาวะมาตรวจ เมื่อเรารู้อย่างนี้ ทำไมจะต้องรอให้ป่วยด้วย ก็หัดตรวจอุจจาระ ปัสสาวะ ของตัวเองให้เป็นจากในห้องนี้ แล้วสุขภาพจะดี

แหล่งที่มาของภาพ : www.konbaan.com/TipsTricks/TipsT...ks25.php

ตอนนี้หลวงพ่ออายุ 69 ปี สุขภาพยังใช้ได้ เพราะหมั่นตรวจดูความปกติหรือไม่ปกติของอุจจาระ ปัสสาวะ ของตัวเองเป็นประจำ ดูกระทั่งสบงจีวรที่นุ่งที่ห่มแต่ละวัน กลิ่นสาบสางมีอย่างไร เพราะถ้าคนจะป่วยจะไข้ จะมีสิ่งบอกเหตุล่วงหน้า ตั้งแต่กลิ่นเสื้อกลิ่นผ้ามันจะบอก จากนั้นดูอุจจาระ ปัสสาวะ ตั้งแต่สี กลิ่น ของมันจะบอก ตรงนี้ฝากด้วย ใช้ห้องน้ำใช้ให้เป็น ฝึกให้ทุกคนในบ้านทำความสะอาดห้องน้ำให้เป็น

แล้วไม่ว่าฐานะเราจะดีอย่างไร ในเรื่องห้องน้ำส่วนตัว ต่อให้เราเป็นมหาเศรษฐีมีเงินกี่พันกี่หมื่นล้านก็ตาม หัดดูแลห้องน้ำตัวเองด้วย ฝึกให้ลูกดูแลห้องน้ำของเขาให้เป็น ไม่อย่างนั้นเขาจะดูแลสุขภาพไม่เป็น ตอนลูกเล็ก ๆ ฝึกให้เขาหัดขัดส้วมของเขาด้วย แล้วโตขึ้นจะเป็นคนไม่เกี่ยงงาน ต่อไปเบื้องหน้าแม้พ่อแม่ป่วย หรือตัวเขาป่วย เขาจะดูแลพ่อแม่เป็น ถ้าเขาจะต้องเช็ดอุจจาระ ปัสสาวะ หรือจะเทอุจจาระ ปัสสาวะ ให้พ่อแม่ก็ตาม เขาจะไม่รังเกียจ ที่สำคัญ เขาจะดูแลสุขภาพของเขาเป็น เรื่องนี้มองข้ามไม่ได้
หลวงพ่อได้ เรื่องนี้มาจากโยมพ่อ แล้วก็มาได้อีกครั้งอย่างมากที่คุณยาย แล้วอีกครั้งหนึ่งได้ตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เนื่องจากเรียนวิชาสัตวบาล มีเป็ดไก่เป็นพัน ๆ ตัว วัวนมวัวเนื้ออีกเป็นร้อย ๆ ตัว ควายนมเป็นฝูง หมูเป็นฝูง มาให้เราดู

สมัยเรียน วิชาที่เรียนบังคับให้ตอนเช้าจะต้องดูสุขภาพเจ้าสัตว์พวกนี้ก่อน แล้วจึงจะไปเข้าห้องเรียนได้ ต้องเดินผ่านคอกสัตว์เหล่านี้ แต่สัตว์บอกไม่ได้ว่ามันป่วย วัวก็บอกไม่ได้ ไก่ก็บอกไม่ได้ แล้วทำอย่างไร ก็ต้องไปดูอุจจาระ ปัสสาวะของมัน มองปราดไป เห็นผิดปรกติตรงไหน เดี๋ยวรีบไปตามหาให้ได้ว่า อุจจาระกองนี้ของสัตว์ตัวไหน แล้วก็รักษาแก้ไขกันไป ทำให้ดูแลสุขภาพสัตว์จำนวนพันมาได้อย่างนี้

หลวงพ่อเลยสะท้อนมาถึงตัวเองว่า คุณยายก็จ้ำจี้จ้ำไชเรื่องห้องน้ำกับหลวงพ่อไว้มากว่า ให้ไปอบรมพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา

คุณยายใช้คำหนึ่งว่า
ถ้า เขายังไม่เต็มใจขัดห้องน้ำให้เป็น ท่านอย่าให้บวชนะ ถ้าบวชต่อไปข้างหน้า เขาจะเป็นคนที่เกี่ยงงาน แล้วเกี่ยงทุกอย่าง ดูถูกคนก็ปานนั้น

ดังนั้น พวกเราหวังจะให้ลูกหลานของเราได้ดี อย่ามองข้ามการงานในห้องน้ำ

No comments: