Monday, November 15, 2010

การถวายผ้ากฐินที่ถูกต้องควรทำอย่างไร? (จบ)

ปุจฉา : ข้าพเจ้ามีความสับสนเรื่องการถวายผ้ากฐินซึ่งมีอานิสงส์มาก ว่าการถวายผ้ากฐินอย่างไรที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา เพราะบางวัดรับผ้าไตรจีวรตัดเย็บแล้ว บางวัดรับผ้าขาวไปตัดเย็บเอง และบางวัดก็ไม่ตัดเย็บใดๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันไปจนไม่รู้ว่า แบบไหนคือแบบที่ถูกต้อง

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

ปุจฉา : ข้าพเจ้ามีความสับสนเรื่องการถวายผ้ากฐินซึ่งมีอานิสงส์มาก ว่าการถวายผ้ากฐินอย่างไรที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา เพราะบางวัดรับผ้าไตรจีวรตัดเย็บแล้ว บางวัดรับผ้าขาวไปตัดเย็บเอง และบางวัดก็ไม่ตัดเย็บใดๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันไปจนไม่รู้ว่า แบบไหนคือแบบที่ถูกต้อง

ด้วยความเคารพอย่างสูง

“ศรัทธาธรรมส่องโลก”

วิสัชนา : มีจุดมุ่งหมายให้ความสำคัญในเรื่องความพร้อมเพรียงและความสามัคคีของหมู่สงฆ์เป็นสำคัญ ในขณะเดียวกันก็ยังเอื้อเฟื้อให้ญาติโยมได้มีส่วนร่วมในการก่อบุญดังกล่าวขึ้น โดยเปิดโอกาสให้ทายกทายิกาทั้งหลายที่มีศรัทธาปสาทะ ได้ร่วมกันถวายผ้ากฐินพร้อมทั้งบริวาร ตามกำลังความพร้อมแห่งตนและหมู่คณะ จะเห็นได้ว่าการถวายผ้าเพื่อภิกษุจะได้ใช้กรานกฐินนั้น จะถวายครบเพื่อจัดทำจีวรทั้ง ๓ ผืน หรือเพียงผืนใดผืนหนึ่งในไตรจีวรก็ย่อมได้ ก็สามารถกรานกฐินได้ถูกต้องตามระเบียบการที่พุทธบัญญัติไว้ โดยมุ่งเน้นวัตถุบริสุทธิ์ บุคคลบริสุทธิ์ และเจตนาบริสุทธิ์ ซึ่งคงรวมถึงการมีความรู้ในการจัดการ/ดำเนินการจัดถวายผ้ากฐินสำหรับฝ่ายคณะศรัทธา และต้องรู้จักการกรานกฐินสำหรับฝ่ายพระสงฆ์ เพื่อสืบสานข้อปฏิบัติอันดีตามประเพณีนิยมในพระพุทธศาสนาให้สืบทอดต่อไปอย่างบริสุทธิ์

สิ่งที่ควรติติงและมีมากกับการประพฤติปฏิบัติที่ผิดๆ คือ จำนวนพระสงฆ์ไม่ครบ ๕ รูปอยู่ร่วมจำพรรษาในอาวาส หรืออยู่ร่วมครบ ๕ รูป แต่มีพระภิกษุประพฤติปฏิบัติผิด ทำให้ขาดพรรษาก็คือว่า ขาดองค์คุณของผู้ควรรับผ้ากฐิน กับอีกประเด็นหนึ่งคือการชักชวนญาติโยม ผู้ไม่ได้ปวารณาไว้ ให้มาทอดถวายผ้ากฐินในวัดของตน ล้วนแล้วแต่เป็นความวิบัติตามที่กล่าวมา ไม่สามารถกรานกฐินได้ หรือพูดสรุปคือ ไม่สามารถรับผ้ากฐินเพื่อไปดำเนินการกรานกฐินได้ด้วย กิริยาที่ทำวิบัติ จึงหวังว่าสาธุชนพึงควรให้ความสนใจในหลักธรรมอันถูกต้อง จะได้ถึงซึ่งความบริสุทธิ์แห่งบุญกุศล ที่สำคัญคือการช่วยจรรโลงพระพุทธศาสนาให้สืบอายุต่อไป ด้วยการประพฤติปฏิบัติธรรม สมควรแก่ธรรม

ขอเจริญพร


ที่มา

http://www.posttoday.com/%E0%

No comments: