Tuesday, May 22, 2007

ชีวิตพอเพียงของมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก



Warren Buffet วอร์เรน บัพเฟตต์


มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานี
โทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์
มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก ( รองจากบิล เกตส์)
ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศล 31,000 ล้านดอลล่าร์

ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา:

>1. เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ
และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!

>2. เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจาก
การส่งหนังสือพิมพ์

>3. เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด
3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮาที่ซื้อไว้หลังแต่งงาน
เมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการใน
บ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม

>4. เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง
ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน

>5. เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว
แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่
ใหญ่ที่สุดในโลก

>6. บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทใน
เครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอของ
บริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมาย
ประจำปี เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอ
เหล่านี้เป็นประจำ

>7. เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ
กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย
กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1

>8. เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อน
เมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์

>9. บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขา
เป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่าตนเอง
ไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลา
นัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบ
บัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง
และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัว
วอร์เรน บัพเฟตต์

>10. วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มี
คอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน

>11. เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า:
จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัวคุณเอง


ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย ๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง

๑. มหาเศรษฐีหรือยาจก กินข้าวแล้วก็อิ่ม 1 มื้อ เท่ากัน

๒. มหาเศรษฐีหรือยาจก มีเสื้อผ้ากี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด
เท่ากัน

๓. มหาเศรษฐีหรือยาจก มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน
พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกันคือ ห้องนอน ห้องน้ำ
ห้องครัว เหมือนกัน

๔. มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน
ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็ต้องตาย เหมือนกัน


มองทะลุวัตถุนิยม และเห็นความหมายที่แท้จริงของชีวิต



Bill Gates and Warren Buffet

No comments: