Thursday, January 22, 2009

ภาพพระพุทธรูปที่สวยงามที่สุดในโลก..จากพิพิธภัณฑ์เมืองสารนาถ

ท่านที่เคยเข้าชมในพิพิธภัณฑ์เมืองสารนาถ พาราณสี ที่ แสดงปฐมเทศนาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีความรู้สึกตรงกันว่า เสียดายที่ถูกห้ามนำกล้องมาถ่ายภายใน เพราะมีพระพุทธรูป ปางที่สวยงามมาก จนอยากจะถ่ายภาพไว้เป็นที่บูชาสักการะ...คราวนี้ผู้เขียนมีเพื่อนที่เป็นนัก ค้นคว้าพุทธสถาน ชาวอินเดีย ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปถ่ายภาพในพิพิธภัณฑ์ ได้นำภาพถ่ายพุทธสถานต่าง ๆ ทั่วอินเดีย มาให้รวบรวมเป็นข้อมูล โดยแลกกับกล้องดิจิทัล ที่ได้นำมามอบให้ไปถ่ายภาพ พระพุทธสถาน พุทธรูปต่าง ๆ โดยต้องการภาพถ่ายเป็นการแลกเปลี่ยน จึงได้ภาพนี้มานำเสนอเพื่อให้ท่านที่สนใจศรัทธา สามารถโหลดเก็บไว้เพื่อการบูชาสักการะได้

พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา

องค์นี้เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในยุคสมัยคุปตะ (Gupta Period) ประมาณปี พ.ศ. ๘๐๐-๑๒๐๐ ยุคนี้ นับว่าเป็นยุคที่มีความเจริญสูงสุด แห่งพุทธศิลป์

พระ พุทธรูป ที่ถูกค้นพบ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ปางปฐมเทศนานี้ ถือกันว่า เป็นพุทธปฏิมาที่งดงามมาก แต่ก่อนนี้อินเดียมีการประกวดพุทธปฏิมา หากส่งพระพุทธรูปองค์นี้เข้าประกวด ก็จักได้รับการคัดเลือกว่าเป็นพุทธรูปที่งดงามที่สุดทุกครั้งไป นับว่าเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามที่สุดในโลกองค์หนึ่งก็ว่าได้...

ประจักษ์ วัฒนานุสิทธิ์ ใน หนังสือแนะนำศิลปอินเดีย หน้า ๑๐๑ กล่าวไว้ว่า

ไม่มีรูปเคารพอื่นใด ที่จะสวยงามล้ำลึก ทั้งในความหมายและรูปแบบทางศิลปะ เทียบได้กับพระพุทธรูปองค์นี้ .

องค์พระสร้างจากหินทรายเมืองจูนาร์ มีความสูงจากฐานถึงพระรัศมี ๑.๖ เมตร หน้าตักกว้าง๐.๗๙ เมตร ประทับนั่งในท่าขัดสมาธิเพชรบนพระแท่น พระ หัตถ์อยู่ในท่าทรงแสดงธรรม สื่อความหมายถึงการไขปริศนาธรรมที่ถูกปกปิดมานาน ด้านบนมีพระรัศมีแผ่เป็นวงกลม ปรากฎเป็นรูปเทวดา ๒ ตน กำลังโปรยดอกไม้บูชาพระพุทธองค์ ตรงกลางฐานพระพุทธรูปแกะสลักเป็นวงล้อพระธรรมจักรอยู่บนแท่น มีกวางสองตัวหมอบอยู่ทั้งสองข้าง มีรูปพระปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ขนาบสองข้าง ด้านซ้ายมีรูปสลักสตรีและเด็ก สันนิษฐานว่า เป็นเจ้าภาพผู้สร้างองค์พระพร้อมบุตร

ปัจจุบันองค์พระพุทธรูปนี้ ประดิษฐานอยู่ ณ พิพิธภัณฑ์เมืองสารนาถ เปิดให้เข้าชมสักการะได้ทุกวัน เว้นวันศุกร์

Note: สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 8820 บินตรง สู่พาราณสี ทุกวันจันทร์ อังคาร พฤหัส และเสาร์

ที่มา http://www.oknation.net/blog/mylifeandwork/2009/01/22/entry-1

No comments: