| ตะเคียน |
ชื่อพื้นเมือง | กะกี้ โกกี้ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่),แคน(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ),จูเค้ โชเก จะเคียน(ภาคเหนือ),ตะเคียนทอง(ภาคกลาง) ขทิร (ขะ-ทิ-ระ), ขทิโร (ขะ-ทิ-โร) Hopea odorata Roxb. Iron Wood, Thingan, Sace, Malabar Iron Wood Dipterocarpaceae เป็นไม้ในเขตมรสุมของเอเชีย ชอบขึ้นในที่ลุ่มและชุ่มชื้น เพาะเมล็ด การเก็บเมล็ดจากต้นโดยสังเกตเมื่อปีกของผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และต้องรีบนำมาเพาะ ถ้าเก็บไว้นานเปอร์เซ็นต์การงอกจะลดลง เนื้อไม้ต่อเรือ ทำเครื่องตกแต่งบ้าน และเครื่องมือใช้ในทางกสิกรรม เนื้อไม้สวยและทนทาน ทางยา แก่นมีรสขมอมหวาน รักษาคุดทะราด ขับเสมหะ แก้โลหิตและกำเดา |
ตะเคียน ตามพุทธประวัติกล่าวว่า พระพุทธเจ้าจะทำยมกปาฏิหาริย์ ณ เมืองสาวัตถี ฝ่ายเดียรถีย์จะทำแข่งบ้าง โดยเตรียมมณฑลมีเสาซึ่งทำด้วยไม้ตะเคียน หลังคามุงด้วยดอกนิลอุบล
อีกตอนหนึ่งกล่าวเกี่ยวกับต้นตะเคียนว่า สิริคุตถ์หลอกให้พวกนิครนถ์ ผู้เป็นอาจารย์ของครหพินน์ ตกลงไปในหลุมอจจาระ พวกครหพินน์จึงคิดจะแก้แค้นพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นอาจารย์ของสิริคุตถ์ โดยทำหลุมไฟ ใช้ไม้ตะเคียนเป็นเชื้อเพลิง แล้วทำเป็นกระดานกลปิดไว้ที่ปากหลุม เมื่อพระพุทธองค์ทรงพระราชดำเนินไปที่ปากหลุมไฟนั้น ก็มีดอกบัวมารองรับพระบาท จึงมิได้รับอันตรายแต่อย่างใด
|
|
|
ตะเคียน เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ เป็นพืชอยู่ในสกุลเดียวกับสยาดำ ตะเคียนหนู คือ สกุล " Hopea " ในวงศ์ " Dipterocarpaceae "
ลักษณะ ตะเคียนเป็นไม้ต้นไม้ผลัดใบ ลำต้น เปลาตรงเปลือกสีน้ำตาลคล้ำหรือดำ ที่รอยแตกของเปลือกจะมีชันสีเหลืองเกาะอยู่ที่แผลแตก ต้นที่ยังเล็กอยู่เปลือกจะเรียบ แต่ถ้าต้นโตเต็มที่เปลือกจะแตกเป็นสะเก็ด เรือนยอดหนาทึบเป็นพุ่มกลม เนื้อไม่ละเอียดสีน้ำตาลปนเหลือง ใบ เดี่ยว เรียงสลับรูปไข่แกมรูปหอก ผิวใบเกลี้ยงเป็นมัน ตรงที่ง่ามแขนงใบที่ติดกับเส้นกลางใบมักมีตุ่มหูดติดอยู่ ดอก ช่อ ออกตามง่ามใบ ดอกย่อยมีขนาดเล็กสีขาวถึงเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอม ดอกจะเรียงกันเป็นแถวบนก้านช่อดอกย่อย ที่ช่อมีขนสีเทาทั่วๆ ไป ผล รุปกระสวยเล็ก มีปีกยาว 2 ปี ปีกสั้น 3 ปีก ปีกยาวแต่ละปีกมีเส้นๆ ตามความยาว ปีกละ 7 เส้น
No comments:
Post a Comment