โพธิ
|
ชื่อพื้นเมือง | โพ โพศรีมหาโพ โพธิ (ภาคกลาง),ย่อง(แม่ฮ่องสอน),สลี(ภาคเหนือ),โพธิใบ |
ชื่อบาลี | อสสตถ (อัด-สัด-ถุ), โพธิ (โพ-ทิ), อสสตโถ (อัด-สัด-โถ) |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Ficus religiosa L. |
ชื่อสามัญ | Po Tree} Bodhi Three} Peepul of India} Pipal of India} Sacred Fig Tree Pipal Tree} Bo Tree |
ชื่อวงศ์ | Moraceae |
ถิ่นกำเนิด | อินเดีย และพบทั่วๆไปทั้งในลังกาและทวีปเอเชีย |
สภาพนิเวศน์ | ขึ้นได้ในดินทั่วๆไป ไม่ชอบน้ำขังแฉะ แต่ก็ต้องมีความชุ่มชื้นพอควร |
การขยายพันธุ์ | เพาะเมล็ด นกเป็นตัวช่วยกระจายพันธุ์ที่ดี อาจใช้กิ่งชำ หรือกระโดงจากราก |
ประโยชน์ | ทางยา น้ำจากเปลือกช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน ผล ใช้เป็นยาระบายและช่วยย่อย |
่างยิ่งอีกชนิดหน
ต้นโพธิ ลังกาเรียก "Po Tree" ชาวฮินดูเรียก "Pipal" หรือ "Bodhi Tree" เป็นไม้ที่มีความสำคัญทางพระพุทธศาสนาอยึ่ง ดังความในพุทธประวัติ
ต้นโพธิ เป็นสหชาติกับพระพุทธเจ้า (สหชาติ หมายถึงบุคคลหรือต้นไม้ที่เกิดขึ้นในวัน เดือน ปี เดียวกันกับพระพุทธเจ้า) ต้นโพธินี้เป็น 1 ใน 7 ของสหชาติ
ตอนพระพุทธเจ้าตรัสรู้
เจ้าชายสิทธัตถะ ในระหว่างบำเพ็ญพรต เพื่อหาสัจธรรมได้ประทับนั่งที่โคนต้นโพธิ จนกระทั่งพระองค์ได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ คือ อริยสัจ 4 ประกอบด้วย ทุข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เมื่อวันเพ็ญเดือน 6 หลังจากพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้แล้ว แต่ก็ยังต้องทรงทำจิตให้แน่วแน่ตั้งมั่นยิ่งขึ้น จนกิเลสมิอาจรบกวนได้ต่อไป พระองค์ยังคงประทับอยู่ใต้ต้นโพธิอีกเป็นเวลา 7 วัน และกล่าวกันว่า ต้นพระศรีมหาโพธิที่พระพุทธองค์ประทับจนตรัสรู้นั้น ได้ถูกประชาชนผู้ถือนับถือศาสนาอื่นโค่นทำลายไป แต่ด้วยบุญญาภินิหาร มื่อนำนมโคไปรดที่รกจึงมีแขนงแตกขึ้นมาใหม่ และมีชีวิตอยู่มานานและแล้วก็ตายไป แล้วกลับแตกหน่อขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ต้นโพธิที่พุทธคยาที่อยู่ในปัจจุบันนี้ นับว่าเป็นช่วงที่สามของต้นดั้งเดิม
หมายเหตุ คำว่าโพธิ มิได้เป็นชื่อของไม้ชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่เป็นชื่อเรียกต้นไม้ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ประทับใต้ต้นไม้ต้นนั้นๆ และได้ตรัสรู้ เป็นต้นไม้ที่ชาวพุทธ พราหมณ์ และชาวฮินดูให้ความเคารพนับถือย่างสูง (โพธิ แปลว่า เป็นที่รู้ เป็นที่ตรัสรู้ โพธิรุกข หมายถึงต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าประทับและตรัสรู้ ยกตัวอย่างเช่น พระพุทธกัสสปะ ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง พระศรีมหาโพธิ หรือ โพธิรุกข ได้แก่ "ต้นโพธินิโครธ" สำหรับพระพุทธเจ้าหรือพระพุทธโคตมะ พระศรีมหาโพธิ คือต้นไม้ที่ชื่อว่า "ต้นโพธิใบ" )
|
|
ลักษณะ ต้นโพธิเป็นไม้ขนาดใหญ่มาก แตกกิ่งก้านสาขา ผลัดใบ ยอดอ่อนมีสีน้ำตาลแดง ผิวใบเป็นมัน เป็นพืชในสกุลเดียวกับไทร กร่าง คือสกุล "Ficus " อยู่ในวงศ์ " Moraceae " ไม้ในวงศ์นี้จะมียางสีขาว โคนต้นจะเป็นพูพอนขนาดใหญ่ ลำต้น แตกกิ่งก้านสาขา ปลายกิ่งลู่ลง กิ่งอ่อนเกลี้ยง ปลายยอดจะมีหูใบ เป็นปลอกแหลมสีน้ำตาลแดง ผิวเป็นมันหุ้มมิด กิ่งมีรากอากาศห้อยลงมาบ้าง ใบ เป็นใบเดี่ยว ใบอ่อนสีน้ำตาลแดง เมื่อแก่มีสีเขียว ก่อนใบจะร่วงหล่นจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผิวใบเกลี้ยง เนื้อใบค่อนข้างเหนียว ห้อยลง ก้านใบยาว ใบรูปป้อม โคนใบป้าน หรือเว้าเข้าเล็กน้อยแล้วผายกว้างออกเป็นรูปหัวใจ ปลายสุดจะคอด และเป็นติ่งยาวมาก (ประมาณ 2.5-7.5 เซนติเมตร) ติ่งน้บางใบมีความยาวมากกว่าครึ่งหนึ่งของความยาวของแผ่นใบ ดอก เป็นช่อกลมๆ ออกตอนปลายกิ่ง เจริญไปเป็นผล ผล กลมเล็ก สีเขียว เมื่อแก่จัดสีแดงคล้ำหรือม่วงดำและร่วงหลน
โพธิ ในสกุล Ficus มี 2 ชนิด คือ โพธิใบ Ficus religiosa Linn. ส่วนอีกชนิดหนึ่งเรียก โพธิขี้นก หรือโพธิประสาท มีชื่อวิทยาศาสตร์ F.rumphii Bl. (Mock Bodh Tree) ข้อแตกต่างของโพธิ 2 ชนิดนี้คือ ใบและผล ใบของโพธิขี้นกขนาดใบจะเล็กกว่าของโพธิใบมาก (ติ่งปลายใบไม่เกิน 2 เซนติเมตร) ผลสุกของโพธิขี้นกมีสีดำ ส่วนของโพธิใบจะมีสีแดงคล้ำหรือม่วงดำ
No comments:
Post a Comment